ประวัติ วัดชัยสถาน (ป่าเสร้าน้อย)
..........วัดชัยสถาน ตั้งอยู่เลขที่ ๖๕ บ้านป่าเสร้าน้อย หมู่ที่ ๑๒ ตำบลสันปูเลย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ สังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๔ ไร่ ๗๕ ตารางวา อาณาเขต ทิศเหนือประมาณ ๒ เส้น ๑๕ วา จดโรงเรียนบ้านป่าเสร้า ทิศใต้ประมาณ ๒ เส้น ๑๕ วา จดทุ่งนา ทิศตะวันออกประมาณ ๒เส้น ๑๐ วา จดถนนสาธารณะ ทิศตะวันตกประมาณ ๒ เส้น ๑๐ วา จดโรงเรียนบ้านป่าเสร้า
.........อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อุโบสถ ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ กุฏิสงฆ์ วิหาร ศาลาเอนกประสงค์ ปูชนียวัตถุมี พระพุทธรูปปูนปิดทอง และพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ ปางมารวิชัย
วัดชัยสถาน สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๔๐ เดิมชื่อวัดป่าเสร้า เป็นวัดร้างโบราณ มีพระกลิ้งมาบูรณะและชักชวนชาวบ้านตั้งเป็นวัดขึ้น ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๘๐ ตามที่ระบุในแบบกรอกประวัติวัด
เขตวิสุงคามสีมากว้าง ๙.๙๐ เมตร ยาว ๑๗ เมตร
การบริหารและการปกครองมีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนาม คือ
รูปที่ ๑๒ พระอธิการนิเวศน์ ปภงฺกโร ปัจจุบัน คือ พระครูประภัศร์ชัยคุณ ตั้งแต่ปี ๒๕๒๓ เป็นต้นมา
การศึกษามี ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ เปิดสอน พ.ศ. ๒๕๒๐ นอกจากนี้มีที่อ่านหนังสือประจำหมู่บ้าน
ที่มา : หนังสือประวัติวัด ทั่วราชอาณาจักร เล่ม ๙ , กองพุทธศาสนสถาน กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ พิมพ์ครั้งที่ ๑ จำนวน ๒,๗๐๐ เล่ม, พ.ศ. ๒๕๓๓.
ประวัติของวัดที่รวบรวมโดยท่าน พระนคร ปัญญาวชิโร (ปรังฤทธิ์)
ชาตาของชัยสถานป่าเสร้าน้อย ฮ่ายเอาจากต้นฉบับเดิมแล…
“ข้าหนานดี จันทร์ศิริ อดีต กำนันตำบลสันปูเลย เป็นผู้ค้นพบแล้วเอามาเขียนลงใส่ใบลานเมื่อพระพุทธศักราช ๒๕๒๔ (สองพันห้าร้อยซาวสี่) ดังมีข้อความดังต่อไปนี้
“จุลศักราชได้ ๑๒๕๗ ปีระกา สะนำ กัมโพชชะขอมภิไสย เข้ามาในอุตตุระดูเดือนคิมหา ผละคุณะปุณณมี จันทะวระถไร.. ไทยะภาษาเราว่าปีเมืองเล้า เดือนหกเป็งเม็งวันจันท์ไทย กัดไส้ ดิถี ๑๕ ตัว ฤกษ์กดได้ ๑๐ ตัว ข้าตุ๊อินตาเป็นเก้า พร้อมกับด้วยสามเณรและขโยมจุคน สามเณรต๋นหนึ้งจื่อว่า ยาวิไชย ศรัทธาปายนอกมีแม่ออกเจ้าฐานเป็นเก้าพร้อมกับด้วยเจ้านาย มีเจ้าต๋าเขียวและเจ้าจอมคำ เจ้าปี้เจ้าน้องจุ๊ต๋นจุองค์แล ล้ำนั้นไปหมายมี หนานเตปินผู้ ๑ ป้อออกตั๋นผู้ ๑ อ้ายถาผู้ ๑ น้อยทาผู้ ๑ อ้ายตั๋นผู้ ๑ อ้ายโชคผู้ ๑ อ้ายชาผู้ ๑ อ้ายปาผู้ ๑ มี ๙ คนกับกั๋น หื้อเเป๋งวัดวาอารามหื้อเป็นทานค้ำจูศาสนาพระพุทธเจ้าต๋น จื่อว่า พระโคตมะ ต่อเต้า ๕,๐๐๐ พระวะส๋า ขอหื้อผู้ข้าได้ป้นจากโอฆะสงสารหื้อได้เถิงสุขะ หื้อป้นจากตุ๊กข์ตังมวล ขอหื้อได้เถิงนิพพานธรรมเจ้า จุต๋นจุคนแต้ดีหลีจิ่มเตอะ ขอหื้อป้นตุ๊กข์ หื้อได้เถิงสุขในภาวะจาตินี้แล้ว ภาวะจาติหน้าแก่ผู้ข้าตังหลายจุต๋นจุองค์จุคนแต้ดีหลี ธุวัง ธุวัง จิ่มเตอะ ภิกขุอินตา ปางเมื่ออยู่วัดปันหลังได้มาตั้งอยู่ฐานะสถานบดสถตี้นี้หื้อเป็นวัดวาอารามวันนั้นแล มาอยู่ตี้นี้วันเดือน ๖ เป็ง เม็งวันจันทร์ ไทยกัดไส้ มาวันนั้นจิ่งแล
วิรุฬหา พุทธศาสเน โคตมะปัพพัชชิง ชาโต อริยเมตไตยโย พุทโธ เหสะติ อนาคะเตนิจัง ธุวัง ธุวัง นิจจัง วัตตะนิพพานัง สุขัง วัตตะนิพพานัง สารัง วัตตะนิพพานัง ปรมัง สุขัง
ถัดนั้นมาได้ทานวิหาร ธรรมาสน์ ยามเมื่อจุลศักราชได้ ๑๒๖๔ ตั๋วปลีขาลยี สะนำ เหมันต๋าอุตุระดู วิสาขา สุกละ ปุณณมี จันทะวาระถะไร ไทยภาษาเราว่าปีเต่ายี เดือน ๘ เป็ง เม็งวันสองจันทร์ ไทยกัดไก๊ ดิถีได้ ๑๕ ตั๋ว ฤกษ์ได้ ๑๗ ตั๋ว ตุ๊หลวงอินตา เป็นเก๊าพร้อมกับด้วยสิกข์โยมจุ๊ต๋นแล ศรัทธาจุคนตังญิงจายใหญ่น้อยได้ทานไว้กับสาสะนาพุทธเจ้าต๋นจื่อว่า โคตมะ ถราบ ๕,๐๐๐ พระวะส๋า นิจจัง ธุวัง จิ่งเเด
และถัดนั้นมาก็ได้ทานศาลาและกำแพงนาค สิงห์ และสัตตภัณฑ์และได้เตอุโบสถแป๋งหื้อดีงามแถมยามเมื่อจุลศักราชได้ ๑๒๖๗ ตั๋ว ปีมะเส็ง ไส้ สะนำกัมโพชะ ขอมภิสัยเข้ามาในอุตุระดูผละคุณะก็ดี …ปักกะละตัสสะ อัฐมีระวิวาระไจ ไทยภาษาเราว่าปีดับไส้ เดือน ๖ แรมแปดค่ำ เม็งวันทิตย์ ไทยล้วงเร้า ดิถีได้ ๒๓ ตั๋ว ฤกษ์ได้ ๑๘ ตั๋ว ข้าตุ๊หลวงอินตาเป็นเก๊าพร้อมกับด้วยสามเณรขโยมจุต๋น หนปายนอกมีป้อหนานกุณณา และป้าบัวจันทร์ เป็นเก๊ากว่าศรัทธาตังหลายตังปายในปายนอก ผู้ข้าตังหลายได้กึ๊ดสร้างแป๋งวัดวาอารามวิหารธรรมาสน์และแท่นสังฆ์ศาลากำเเปง บทสถและหอโรงก็บัวระมวลดีงามแล้วถวายหื้อเป็นทานกับศาสนาพระพุทธเจ้าจื่อว่าโคตมะนี้ ขอหื้อข้าตังหลายปันได้เถิงสุขในชั่วนี้และชั่วหน้าอย่าคลาดอย่าคลาแต้ดีหลีแต่เตอะ จบเต้านี้แล
..................................................................................................................................